โปรแกรม Power Point
การใช้งาน Microsoft Office PowerPoint 2007
Microsoft PowerPoint
การนำเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้รับสาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ อันจะทำให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
ของการนำเสนอ ถึงความเปลี่ยนแปลงของ Power Point 2007 ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีการออกแบบปรับโฉมเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด โดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จึงทำให้สามารถเรียกใช้เครื่องมือและคา สั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
ประวัติความเป็นมาของโปรแกรม Power Point
ประวัติย่อPowerPoint 2003โปรแกรมPower Pointเริ่มแรกนั้นได้รับการพัฒนาโดย บ๊อบกัสกินส์อดีตนักศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียเบิร์กเลย์ โดยกัสกินส์เขียนโปรแกรมสร้างแผ่นสไลด์ สามารถนำสไลด์มาเรียงลำดับเป็นผลงานการนำเสนอแบบง่าย ๆ พ.ศ. 2527 กัสกินส์ ได้ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ในซิลิคอนแวลลี่ ชื่อฟอร์ธ็อท และว่าจ้างนายแดนิส ออสติน มาพัฒนาโปรแกรมให้ดีขึ้นใช้ชื่อว่าโปรแกรมพรีเซนเตอร์(Presenter) และได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า เพาเวอร์พอยต์ (Power Point)
พ.ศ. 2530 ได้มีการสร้างโปรแกรม PowerPointเวอร์ชั่น1.0 ขึ้นให้กับเครื่องแอปเปิลแม็คอินทอช เป็นหน้าจอแบบขาวดำเหมือนกล้องถ่ายขาวดำ สามารถฉายออกเครื่องฉายแผ่นสไลด์ และในปีนี้ บริษัทไมโครซอฟต์คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าซื้อบริษัท ฟอร์ธ็อท และโปรแกรม PowerPoint ในราคา 14 ล้านดอลลาร์
พ.ศ.2531ไมโครซอฟต์ได้พัฒนาโปรแกรมPowerPointให้ใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows และ Dos เป็นเวอร์ชั่นแรก ปัจจุบันโปรแกรม PowerPoint ได้พัฒนามาถึงรุ่น 2007 หรือรุ่น 12.0ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่าไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์2007รวมอยู่ในชุดไมโครซอฟต์ออฟฟิศ 2007
พ.ศ. 2530 ได้มีการสร้างโปรแกรม PowerPointเวอร์ชั่น1.0 ขึ้นให้กับเครื่องแอปเปิลแม็คอินทอช เป็นหน้าจอแบบขาวดำเหมือนกล้องถ่ายขาวดำ สามารถฉายออกเครื่องฉายแผ่นสไลด์ และในปีนี้ บริษัทไมโครซอฟต์คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าซื้อบริษัท ฟอร์ธ็อท และโปรแกรม PowerPoint ในราคา 14 ล้านดอลลาร์
พ.ศ.2531ไมโครซอฟต์ได้พัฒนาโปรแกรมPowerPointให้ใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows และ Dos เป็นเวอร์ชั่นแรก ปัจจุบันโปรแกรม PowerPoint ได้พัฒนามาถึงรุ่น 2007 หรือรุ่น 12.0ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่าไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์2007รวมอยู่ในชุดไมโครซอฟต์ออฟฟิศ 2007
ความแตกต่างระหว่าง PowerPoint 2003 กับ PowerPoint 2007
ริบบอนมีลักษณะคล้ายกับทูลบาร์ ที่เราคุ้นเคยกันดีใน PowerPoint 2003 ซึ่งเป็นแหล่งที่ใช้
สา หรับรวบรวมแท็บเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทา งานมากขึ้น โดยดึงเอาความสามารถออกมาจากเมนูคำสั่งที่ซ้อนๆกันอยู่จากเวอร์ชั่นเดิม ให้แสดงอยู่ในรูปแบบของปุ่มเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้เห็นชัดเจนและคลิกใช้งานได้ทันที
กฎในการออกแบบหน้าสไลด์
ในการสร้างสไลด์ในแต่ละหน้านั้น ผู้ใช้ควรมีกฎที่เป็นแนวทางในการสร้างงานนา เสนอก่อน
เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยสรุปได้ดังนี้
1. ในแต่ละสไลด์ควรมีหัวเรื่องเพื่อบอกถึงสิ่งที่จะอธิบาย
2. ตัวอักษรควรใช้ขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้รับฟังและรับชมสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน
3. ควรใช้คา สั้นๆ ที่อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและน่าติดตาม
4. หัวข้อของเนื้อหาไม่ควรเกิน 8 บรรทัดในหนึ่งสไลด์ เพราะถ้ามีมากเกินไปจะส่งผลทำให้
สื่อได้ไม่ชัดเจน
5. ไม่ควรนา ภาพมาเป็นพื้นหลัง (Background) เพื่อจะทา ให้อ่านยาก
6. การใส่รูปภาพลงในสไลด์ควรใช้ขนาดพอสมควรไม่ใหญ่เกินไป
การสร้าง Presentation ใหม่ จาก Template
สาหรับการเริ่มสร้างงานพรีเซนต์ใหม่จากPowerPoint2007จะช่วยให้คุณสามารถสร้างงานได้อย่างรวดเร็วขึ้นจาก Template1 หรือแม่แบบสไลด์สำเร็จรูปที่มีให้เลือกมากมาย โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มออกแบบงานใหม่ทุกครั้ง
ลักษณะของการโปรแกรม Powerponit
โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 เป็นโปรแกรมสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับงานด้าน การนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ (Presentation)ในลักษณะคล้าย ๆ กับการฉายสไลด์ (Slide Show) โดยเราสามารถใช้คำสั่งของ PowerPoint สร้างแผ่นสไลด์ที่มีรูปภาพและข้อความบรรยายเรื่องราวที่ต้องการจะนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกำหนดลักษณะแสงเงา และลวดลายสีพื้นให้สไลด์แต่ละแผ่นมีความสวยงามน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดรูปแบบการฉายสไลด์แต่ละแผ่น อย่างต่อเนื่อง และใช้เทคนิคพิเศษในการแสดงข้อความแต่ละบรรทัด เพื่อให้ผู้ชมการฉายสไลด์ค่อย ๆ เห็นข้อความบรรยายและภาพเหล่านี้ทีละขั้น ๆ อย่างต่อเนื่องกันเป็นเรื่องราวตามระยะเวลาที่เรากำหนดไว้
ประโยชน์ของโปรแกรม PowerPoint
1. สามารถสร้างงานนำเสนอได้ แม้ว่าจะไม่เคยสร้างงานนำเสนอมาก่อน เนื่องจากจะมีระบบช่วยเหลือ(Office Assistant) ในPowerPoint ซึ่งจะคอยแนะนำหลักการในการสร้างงานนำเสนออย่างเป็นขั้นตอน การเลือกสีมาใช้กับสไลด์ และจัดองค์ประกอบทางศิลป์ได้โดยอัตโนมัติ
2. ในส่วนการนำเสนอภาพนิ่ง สามารถที่จะนำองค์ประกอบมัลติมีเดีย เช่น การนำเอฟเฟค เสียง ดนตรีและวีดีโอ มาใช้ประกอบร่วมได้
3. นอกจากสิ่งที่ได้เตรียมมานำเสนอแล้ว ยังสามารถใช้ PowerPoint เตรียมเอกสารประกอบคำบรรยายและในขณะที่มีการนำเสนองาน ก็สามารถใช้เมาส์วาดเส้นบนสไลด์ที่แสดงอยู่ในขณะนั้นเพื่อเน้นประเด็นสำคัญได้
4. สามารถที่จะดัดแปลงงานนำเสนอที่เป็นไฟล์ PowerPoint เป็นสไลด์ 35 ม.ม. เพื่อใช้นำเสนอผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายอินทราเน็ตภายในองค์กรได้
แนวทางการสร้างงานนำเสนอ
การนำเสนอที่ดีควรทำอย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มจากการวางโครงร่างของงาน จากนั้นจึงลงรายละเอียดและจัดทำสไลด์เพื่อนำเสนองานเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงควรทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การวางโครงร่าง
ก่อนเริ่มเตรียมงานนำเสนอ ควรมีความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการนำเสนอ โดยศึกษากลุ่มผู้ฟังว่ามีลักษณะเช่นไร การเริ่มเตรียมงานนำเสนอโดยการวางโครงร่าง เป็นการถ่ายทอดความคิดของผู้นำเสนอเป็นแนวทางทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับงานที่จะนำเสนอ ซึ่งจะช่วยให้ไม่พลาดหัวข้อสำคัญที่ต้องนำเสนอ นอกจากนั้นการวางโครงร่างยังเปรียบเสมือนแผนที่ในการดำเนินเรื่อง จะได้มีความมั่นใจว่าการนำเสนอผลงานนั้นได้ผลลัพธ์ตรงตามจุดประสงค์ที่วางไว้
2. การลงรายละเอียดเนื้อหา
หลังจากวางโครงร่างตั้งแต่เริ่มจนจบแล้ว ต่อไปเป็นการลงรายละเอียดในหัวข้อต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้ชมเป็นหลักว่าสไลด์ที่จะนำเสนอต้องมีเนื้อหา หรือรูปแบบการนำเสนอแบบใดจึงจะเหมาะสม ซึ่งต้องพิจารณาตั้งแต่องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ อาทิ ภาพ สี และแนวการนำเสนอ เช่น การบรรยายเชิงวิชาการก็ควรให้โทนสีของสไลด์สอดคล้องกับเนื้อหาที่เน้นไปทางสาระและข้อมูล
3. การใส่ข้อความ รูปภาพ กราฟ หรืออื่น ๆ ในสไลด์
เป็นขั้นตอนที่นำเอาสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการนำเสนอมาใส่ในสไลด์แต่ละแผ่น โดยขั้นตอนนี้อาจจะไม่ต้องปราณีตเกี่ยวกับความสวยงามมากนัก แต่ควรเน้นให้มีเนื้อหามีความครบถ้วนสมบูรณ์ และมีความสอดคล้องกันทั้งข้อความ รูปภาพและกราฟ
4. การปรับแต่งสไลด์ให้มีสีสันสวยงาม
หลังจากที่ได้ใส่ข้อความที่ต้องการนำเสนอแล้ว ต่อไปจะต้องทำการปรับแต่งตัวอักษร สีที่ใช้กับสไลด์ และรูปแบบขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่แสดง เพื่อให้สไลด์ดูสวยงามและน่าติดตาม เช่น การใช้ข้อความอักษรศิลป์ให้เงากับวัตถุ กำหนดภาพสามมิติ เป็นต้น
5. การเพิ่มความน่าสนใจให้กับสไลด์ในขณะนำเสนอ
กรณีใช้คอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสไลด์ ก็อาจนำเทคนิคในการเปลี่ยนแผ่นสไลด์มาใช้ เนื่องจากมีมากมายหลายแบบให้เลือกใช้ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการนำเสนอข้อมูลได้
6. เตรียมการนำเสนองานจริง
หลังจากได้งานนำเสนอที่สมบูรณ์แล้ว ก่อนถึงเวลาที่จะต้องนำเสนอ ควรซ้อมการพูดให้เข้ากับแผ่นสไลด์ที่เตรียม ควรมีการจับเวลาที่ใช้นำเสนอด้วยเพื่อจะได้ทราบเวลาบรรยายจริง และจะได้ปรับลดให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
7. การเตรียมเอกสารประกอบการบรรยายแจกผู้เข้ารับฟัง
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ จัดพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยาย แจกให้ผู้เข้าฟังจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการจดบันทึกสิ่งที่ได้นำเสนอไป
หลักการทำงานของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 จะสร้างเอกสารเป็นแผ่น ๆ คล้ายกับแผ่นโปร่งใส โดยในแผ่นงานนั้นสามารถพิมพ์ข้อความ แทรกภาพประกอบ แทรกตาราง เติมสี และออกแบบองค์ประกอบแผ่นงานให้สวยงามได้หลากหลายรูปแบบ
แผ่นงานแต่ละแผ่นจะเรียกว่าสไลด์(Slide) โดยแต่ละไฟล์สามารถสร้างสไลด์ได้จำนวนมากเพียงพอที่จะสร้างงานนำเสนอได้ เราสามารถจะลบ เพิ่ม แทรก หรือเคลื่อนย้ายสลับหน้ากันไปมาได้
เหตุผลที่ PowerPoint 2007 ได้รับความนิยมในการสร้างงานนำเสนอข้อมูลมีดังนี้
1.ใช้งานง่ายสามารถสร้างแก้ไขและเพิ่มเติมเนื้อหาได้อย่างสะดวก
2. สนับสนุนมัลติมีเดียได้อย่างดี นำสื่อในรูปแบบวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหวแบบแฟลชมูวีและเสี่ยงมาใช้
เพื่อให้เห็นภาพทีสื่อความหมายได้ชัดเจนและช่วยสร้างความน่าสนใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น
3.ประยุกต์สร้างงานได้หลากหลาย สามารถนำเสนองานไปประยุกต์ในงานรูปแบบต่างๆ เช่น ตู้ คีออสก์
เป็นตู้คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลหรือสำรับเล่นเกม
4. แสดงทั่งจอภาพและเอกสารสามารถนำเสนอข้อมูลบนหน้าจอภาพ และสั่งพิมพ์งานสไลด์ในรูปของเอกสาร
5.บันทึกไฟล์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ไฟล์ชนิดรูปภาพ หรือไฟล์เว็บเพจ เพื่อนำเสนองานบน อินเทอร์เน็ต
หรือ ไฟล์ชนิดอื่นๆได้ตามต้องการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น